Head_ad

Wednesday, December 25, 2013

การดูแลผิวสวยต่างวัยใน “หน้าหนาว”


ดูแลผิวสวยต่างวัยใน หน้าหนาว

เริ่มเข้าหน้าหนาวอีกแล้ว!!!
แม้บ้านเราจะไม่หนาวมากนัก แต่ความแห้งของอากาศคือ สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่าปล่อยให้ใบหน้าสวยใสต้องแห้งผาก และผิวกายเหี่ยวย่นบอกอายุ มาเริ่มต้นดูแลผิวพรรณกัน ด้วยตัวคุณได้ง่ายๆ ตลอดหน้าหนาวนี้

อายุ 30+
ช่วงอายุนี้จะเริ่มมีสัญญาณเริ่มต้นของริ้วรอย และอิลาสตินในผิวหนังก็เริ่มเสื่อมถอย จึงยากที่ผิวจะยังคงความสดใสไว้เหมือนวัยแรกแย้ม แม้เราหยุดเวลาของนาฬิกาชีวิตไม่ได้ แต่ทำให้มันเดินช้าลงได้ สิ่งที่สำคัญ คือมอยสเจอไรเซอร์ ไม่ว่าจะเป็นครีมหรือโลชั่น ที่คอยรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ผิวอยู่ตลอดอย่าได้ขาดเพื่อให้ผิวดูมีน้ำมีนวล รวมทั้งวิตามินอีที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
           การบำรุงผิว: มีส่วนช่วยอย่างมาก เมื่อร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุในปริมาณที่สูง ก็จะมีส่วนช่วยให้ผิวพรรณดูสวยขึ้น โดยเฉพาะวิตามินซี คนที่กินผักและผลไม้สดมากๆ จะเหมือนร่างกายได้รับน้ำหล่อเลี้ยงถึง ลิตร ทั้งนี้ คุณควรดื่มน้ำให้ได้รวมทั้งหมด ประมาณ 1.5-2 ลิตร และอย่าเครียด เพราะอาจส่งผลให้ผิวหย่อนคล้อยได้เช่นกัน

อายุ 40+
วัยนี้ผิวจะเริ่มสูญเสียอิลาสตินมากขึ้น เซลล์ผิวไม่จับตัวแน่นเหมือนเดิม และผิวก็จะแห้งกว่าเดิม ควรทำความเข้าใจกับส่วนผสมในครีมหรือโลชั่นด้วย โดยควรมีกรดไลปิดผสมเหมือนเดิม และเพิ่มการบำรุงด้วยการใช้ครีมบำรุงแผงคอ และหน้าอกเพื่อความกระชับ เพราะผิวที่บอบบางตรงส่วนนี้จะยิ่งเกิดริ้วรอยได้ง่าย เลือกสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากพืช ซึ่งช่วยปกป้องคอลลาเจนในผิว
           การบำรุงผิว: แม้ว่าผู้หญิงบางคนจะยังไม่มีปัญหาเรื่องรูปร่างในช่วงอายุนี้ แต่จะสังเกตได้เลยว่าร่างกายเผาผลาญพลังงานไม่ได้มากเท่าเมื่อก่อน และน้ำหนักเริ่มขึ้นง่าย ควรเลือกกินอาหารที่มีโอเมก้า-3 และโอเมก้า-6 ที่มีในปลาแซลมอน เพื่อให้ร่างกายย่อยสลายไขมันได้ดี ก็จะช่วยลดปัญหาผิวหย่อนคล้อยเพราะไขมันสะสม โดยเฉพาะหน้าท้องและสะโพกที่จะเกิดผิวแตกลาย

อายุ 50+
ปัญหาริ้วรอยย่นที่ผิวกายเริ่มมีมากขึ้น บรรเทาด้วยการดูแลเป็นพิเศษ รูปร่างก็เริ่มเปลี่ยน และแน่นอนว่าผิวไม่กระชับดังเดิม ครีมบำรุงผิวหน้าท้องที่ใช้จึงควรมีส่วนผสมของคอลลาเจนและอิลาสติน เพื่อให้ผิวตึงกระชับและหนาขึ้น ส่วนโลชั่นบำรุงผิวกายที่มี AHAจะช่วยฟื้นฟูและสร้างเซลล์ผิวใหม่ ใช้ครีมนวดกระชับผิวบริเวณต้นขา ส่วนผิวที่แผงอกควรเลือกครีมที่มีซิลิเซียม จะช่วยลดรอยย่นรวมถึงจุดด่างดำ

           การบำรุงผิว: วัยนี้ควรบำรุงกระดูกก่อนด้วยอาหารที่มีแคลเซียม ไม่ว่าจะเป็นนม ผลิตภัณฑ์จากนม โยเกิร์ต มันฝรั่ง บร็อกโคลี่ ส่วนอาหารต้านริ้วรอยนั้น แท็กทีมกันมาทั้งผักและผลไม้ที่มีวิตามินเอและซีสูง ซึ่งเสริมสร้างแคโรทีนอยด์ที่ช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากอนุมูลอิสระได้ดีอีกด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก:   Quality Plus โทร. 02-565-5985-7 แฟ็กซ์ 02-565-5724  
                                   www.qualityplus.co.th www.facebook.com/qpaicosmetic

Tuesday, December 17, 2013

ประโยชน์ของวิตามินชนิดต่างๆ



วิตามิน เป็นสารอินทรีย์ที่สิ่งมีชีวิตจำเป็นต้องได้รับในปริมาณเล็กน้อย สำหรับการเติบโต ขยายพันธุ์ และช่วยให้มีสุขภาพดี ถ้าสิ่งมีชีวิตขาดวิตามินตัวใดตัวหนึ่งจะมีอาการป่วยซึ่งมีลักษณะเฉพาะขึ้นกับวิตามินที่ขาดวิตามินแบ่งออกเป็น 2 จำพวก คือวิตามินที่ละลายในไขมัน ได้แก่ A, D, E, Kวิตามินที่ละลายในน้ำ ได้แก่ B, C

ประโยชน์ของวิตามิน

  1. วิตามินเอ  เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการมองเห็น ป้องกันโรคตาบอด บำรุงสายตา บำรุง ผม และเล็บ
  2. วิตามินบี 1 บำรุงประสาท แก้เหน็บชา ช่วยเผาพลาญคาร์โบไฮเดรต ไปเป็นพลังงาน ถ้าขาดจะหงุดหงิดง่าย
  3. วิตามินบี 2 ช่วยเผาพลาญคาร์โบไฮเดรต ถ้าขาดจะเป็นแผลที่มุมปาก ผิวจะแตกหยาบกระด้า
  4. วิตามินบี 3 ช่วยเผาพลาญไขมัน และคาร์โบไฮเดรต บำรุงผิวหนังและระบบประสาท
  5. วิตามินบี 5 ช่วยเผาพลาญคาร์โบไฮเดรต ไขมันและโปรตีน ลดอาการภูมิแพ้ หอบหืด นอนไม่หลับ
  6. วิตามินบี 6 ช่วยบรรเทาอาการก่อนจะมีประจำเดือน แก้แพ้ท้อง บำรุงประสาท ลดอาการไขมันอุดตันในเส้นเลือด
  7. วิตามินบี 7 ช่วยในการย่อยหรือแตกตัวของโปรตีนและไขมัน
  8. วิตามินบี 9 ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง เสริมความจำ ช่วยป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ และมะเร้งเต้านม ถ้าในเลือดมีกรดโฟลิกต่ำ ทำให้จิตใจหดหู่ ขาดความรู้สึกทางเพศ
  9. วิตามินบี 12 ช่วยเสริมสร้างเม็ดเลือด บำรุงประสาท ป้องกันอาการอ่อนเพลีย เนื่องจากโรคโลหิตจาง
  10. วิตามินซี  ต้านอนุมูลอิสระ สร้างคอลลาเจน ช่วยควบคุมระดับคลอเรสเตอรอล บำรุงผิวพรรณและกระดูก ป้องกันโรคมะเร็ง ลดอาการภูมิแพ้ ช่วยบรรเทาอาการหวัด
  11. วิตามินดี บำรุงกระดูกและฟัน ป้องกันโรคกระดูกอ่อนในเด็ก ทำหน้าที่ควบคุมการดูดซึมแคลเซียม
  12. วิตามินอี  ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี ป้องกันการแข็งตัวของเลือด
  13. วิตามินเค  ช่วยให้เลือดแข็งตัว



Thursday, December 12, 2013

การเลือก กระเช้าปีใหม่ (สสส.)

“กระเช้าปีใหม่” ควรมีและไม่ควรมีอะไรบ้าง

การให้กระเช้าที่ประกอบด้วยอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ เป็นหนึ่งในตัวเลือกของขวัญปีใหม่ยอดนิยม โดยเฉพาะการมอบให้กับผู้หลักผู้ใหญ่ เจ้านายที่นับถือ เพื่อแสดงความเคารพและระลึกถึง ยิ่งพิถีพิถันเลือกแต่ของที่ดีต่อสุขภาพจัดลงในกระเช้า ก็จะยิ่งเป็นการแสดงความใส่ใจและปรารถนาดีที่มีให้แก่ผู้รับ
มาดูกันค่ะว่ากระเช้าสุขภาพที่ดี ควรมีและไม่ควรมีอะไรบ้าง

ของควรเลี่ยงสำหรับกระเช้า
สุรา มีการห้ามนำสุรามาใส่ในกระเช้าของขวัญอยู่แล้ว การมอบกระเช้าที่มีสุราตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางกระเช้านั้น แสดงให้เห็นถึงความไม่ปรารถนาดีต่อผู้รับ เพราะสุราที่หยิบยื่นให้นั้น จะส่งผลให้ผู้รับเสี่ยงต่อโรคภัยต่างๆ เช่น ตับแข็ง ไขมันพอกตับ ความดันโลหิตสูง อ้วนลงพุง ตับอ่อนอักเสบ มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งตับ ฯลฯ กระเช้าเหล่านี้จึงจัดได้ว่าเป็น กระเช้าอัปมงคล!
ผลไม้กระป๋อง ด้วยกรรมวิธีการผลิตต่างๆ มักส่งผลให้ผลไม้กระป๋องสูญเสียวิตามินอย่าง วิตามินซี วิตามินบีไป ไม่ได้คุณค่าอาหารเท่ากับผลไม้สดๆ และผลไม้กระป๋องส่วนใหญ่จะอุดมไปด้วยน้ำเชื่อม เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคอ้วนลงพุงได้หากรับประทานเป็นประจำ การให้ผลไม้กระป๋องจึงแสดงถึงความไม่ใส่ใจที่ผู้ให้มีต่อผู้รับ
คุ้กกี้ ช็อกโกแล็ต ขนมกรุบกรอบ นอกจากจะเป็นแหล่งของน้ำตาลแล้ว ขนมหวานที่บรรจุหีบห่อทั้งหลายยังเป็นแหล่งของไขมันทรานส์ ไขมันที่อันตรายต่อสุขภาพที่สุด พบว่าไขมันทรานส์เพิ่มระดับของคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีในเลือด การให้คุ้กกี้หรือขนมกรุบกรอบจึงไม่ต่างกับการประสงค์ร้ายต่อสุขภาพหัวใจผู้รับ
ครีมเทียม หรือ กาแฟ 3 in 1 ครีมเทียมเป็นชื่อสมมติ ความเป็นจริงแล้วผงสีขาวๆที่คุณกำลังใส่เข้าไปในกาแฟ คือน้ำมันปาล์มที่ผ่านกรรมวิธีปลอมตัวให้รสชาติเหมือนครีม ด้วยการใส่สารเคมีต่างๆเข้าไป การให้ครีมเทียมจึงเป็นการแสดงถึงความไม่จริงใจที่ผู้ให้มีต่อผู้รับ


ของควรเลือกสำหรับกระเช้า
จากขวดสุรา ควรเปลี่ยนเป็น ขวดน้ำมันมะกอก หรือ 100% Extra-virgin olive oil ซึ่งเป็นน้ำมันที่ประกอบไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่ดีต่อสุขภาพ สามารถนำมาทำน้ำสลัด หรือประกอบอาหารแบบใช้ไฟอ่อนๆได้ ที่สำคัญคือ รูปทรงสีสันของขวดนั้น ดูหรูหราสง่างามไม่แพ้ขวดสุราเลยทีเดียว
จากผลไม้กระป๋อง ควรเปลี่ยนเป็นผักผลไม้สดๆ ซึ่งมีสีสันที่สวยงาม บ่งถึงความตั้งใจจริงที่มีให้กับผู้รับ
จากขนมที่ไร้ประโยชน์ ควรเปลี่ยนเป็นขนมที่ดีต่อสุขภาพ เช่น กระเจี๊ยบมอญอบกรอบ บร็อคโคลี่อบแห้ง งาดำอัดแท่งหวานน้อย ลูกเดือยกล้อง ถั่วเปลือกแข็ง(อัลมอนด์ วอลนัท)อบไม่ปรุงรส ดาร์คช็อคโกแล็ต (มี %cocoa มากกว่า 70%) จะเป็นการสร้างความประหลาดใจและประทับใจให้กับผู้ที่ได้รับกระเช้า
เปลี่ยนครีมเทียมและกาแฟสำเร็จรูป มาเป็นใบชา เช่น ชาเขียว หรือ ชาอู่หลง ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระ สารต้านมะเร็ง เปรียบได้กับการอวยพรให้ผู้รับสุขภาพดี สดใส ไร้มะเร็ง
ระวังตัวลวง
หลายครั้งที่กระเช้าซึ่งถูกจัดหมวดหมู่อยู่ในกระเช้าสุขภาพ แต่จริงๆแล้วมีผลิตภัณฑ์ที่มีราคาแพง แต่ไม่ได้มีประโยชน์ต่อสุขภาพเทียบเท่าราคามาปะปน เช่น รังนก ซุปไก่สกัด น้ำผลไม้แบบกล่องสำเร็จรูป ผลไม้ตากแห้งรสหวาน ส่งผลให้กระเช้าเหล่านี้มีราคาสูงเกินความจำเป็น และไม่ใช่ตัวเลือกที่ชาญฉลาด
หลังจากจัดกระเช้าปีใหม่เพื่อสุขภาพที่กิ๊บเก๋ในแบบของคุณได้แล้ว อย่าลืมที่จะเขียนการ์ดอวยพรปีใหม่ด้วยลายมือตัวเอง แม้ลายมือจะหวัดแค่ไหน แต่รับรองได้ว่าคนรับจะประทับใจยิ่งกว่าการ์ดสำเร็จรูปที่พิมพ์มาแน่นอน


ที่มา : เครือข่ายคนไทยไร้พุง โดย พญ. ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล